หลังจากเจ้าหน้าไดบุกจับเจ้าของโควต้าหวยที่ได้รับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับผู้ที่มีโควต้าพื่อนำไปรวบรวมทำเป็นหวยชุดแล้วนำไปขายต่อในราคาที่แพงเกินจึงที่หน้าไปรษณีย์เอราวัณ อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย เมื่อวานนี้ร่วม 400 เล่ม มูลค่ากว่า 20 ล้านบาทนั้นขอความเป็นธรรมก่อนถูกตัดสิทธิจากสำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาล
จากการตรวจสอบว่า เป็นของผู้ซื้อจองรายใดบ้าง โดยจะต้องตรวจสอบสลากเป็นของโควต้าของใคร เมื่อตรวจสอบได้ข้อมูลแล้ว เราก็จะคืนสลากให้ผู้ประกอบการหรือยี่ปั๊วนำมาตรวจสอบ โดยมันมีสัญญาข้อหนึ่งว่าในการเป็นผู้ได้รับโควต้าจากสำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาล ต้องจําหน่ายสลาก ด้วยวิธีจําหน่ายปลีกกับผู้บริโภคโดยตรงเท่านั้น ห้ามขายส่งให้กับผู้ที่จะนําไป จําหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง ถ้าพบจะทำการยกเลิกโควต้าจากสำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาลทันที
ล่าสุด นายสมบัติ หนึ่งในผู้ได้รับโควต้าจากกองสลาก ที่โดยทางสำนักงานกองสลากและกองกำกับการกองปราบ ยึดสลากกินแบ่งรัฐบาลไว้ตรวจสอบที่ไปรษณีย์เอราวัณ ได้ขอความเป็นธรรมจากสำนักงานกองสลาก หลังจากโดนสำนักงานประกาศยกเลิกโควต้าจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเพราะทำผิดสัญญา
โดยกล่าวว่า ตนได้โควต้ามา 5 เล่มปกติทุกงวดตนจะออกขายตามต่างจังหวัด แต่มีงวดนี้ต้องตัดอ้อยขายส่งโรงงานเอง เนื่องจากปีนี้ขาดแรงงานตัดอ้อย เพราะโควิด-19 โดยส่งโรงงานปีละครั้งจึงยอมนำโควต้าไปขายให้กับยี่ปั้ว เพื่อน้ำไปขายต่อในตลาดวังสะพุง แต่ก็มาถูกจับ
อยากขอความเป็นธรรมกับกองสลาก ถ้าคิดจะตัดโควต้าของใคร ควรขอให้ตรวจสอบความเท็จจริง และความจำเป็น ก่อนที่ตัดโควต้า บางครั้งมันมีความจำเป็น ซึ่งการขายลอตเตอรี่เป็นอาชีพหลักเลี้ยงตนได้ พร้อมควบคู่กับการทำเกษตร